www.upfacecenter.com

ศัลยกรรมจมูก

ศัลยกรรมจมูก

การเสริมจมูกสวย ๆ ที่ดูดีมีความเป็นธรรมชาติ น่าจะเป็นสิ่งที่ใครหลายคนให้ความนิยม และสนใจอย่างมากในประเทศไทย เพราะสามารถเปลี่ยนแปลงโครงหน้าเดิมให้ดูโดดเด่นขึ้นได้ แต่ก็มีบางกรณีที่เคยเสริมจมูกมาแล้วต้องกลับมาแก้ใหม่ จากปัญหาซิลิโคนทะลุ, จมูกเอียง, รูจมูกผิดรูป หรือซิลิโคนลอย เพื่อให้ความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการเสริมจมูกยังไงให้ปังตั้งแต่ครั้งแรก

เสริมจมูก คืออะไร ?

การเสริมจมูก (Rhinoplasty) คือการผ่าตัดศัลยกรรมตกแต่งรูปทรงจมูกให้มีความโด่งขึ้น สวยงามเด่นชัด ด้วยการเสริมวัสดุที่เหมาะสม เช่น ซิลิโคน (Silicone), กอร์เท็กซ์ (Gore-tex) รวมถึงกระดูกอ่อน ซึ่งถือว่าเป็นที่นิยมอย่างมากในวงการเสริมความงาม นอกจากนี้ยังสามารถช่วยแก้ไขทรงจมูกที่ผิดรูป, จมูกไม่ได้สัดส่วน, และแก้ไขโครงสร้างจมูกจากอุบัติเหตุ หรือความบกพร่องตั้งแต่กำเนิด

  • บริการปรับแต่งโดยซิลิโคน
    เป็นเทคนิคที่ใช้วัสดุทางการแพทย์ โดยศัลยแพทย์จะเป็นผู้เลือกให้เหมาะสมกับคนไข้ หลังจากนั้นจะทำการปรับแต่งแก้ไขรูปจมูกให้ดูโด่งมีมิติ เป็นธรรมชาติ
  • บริการปรับแต่งให้ปลายพุ่ง
    เป็นเทคนิคที่ได้รับความนิยมในกลุ่มดาราเกาหลี ซึ่งศัลยแพทย์จะทำการปรับแต่งให้บริเวณปลายจมูก ดูพุ่ง มีองศาดูสวยเนียนตา
  • บริการปรับแต่งโดยใช้กระดูกอ่อน
    เป็นเทคนิคพิเศษที่ศัลยแพทย์จะนำกระดูกบริเวณหลังใบหู แทนการใช้วัสดุทางการแพทย์ มาช่วยปรับแต่งให้ดั้งดูโด่ง สวยแบบมีมิติ สมดุลกับใบหน้า
  • บริการปรับแต่งโดยใช้เนื้อเยื่อเทียม
    เป็นเทคนิคเฉพาะที่ศัลยแพทย์จะนำเนื้อเยื่อเทียม ซึ่งเป็นวัสดุที่สังเคราะห์ได้จากคอลลาเจน มา ปรับแต่งแทนการใช้วัสดุทางการแพทย์ เพื่อให้ดั้งโด่งขึ้น ดูสวยเป็นธรรมชาติ
  • บริการแก้ไขทรงเดิม โดยเทคนิคแบบโอเพ่น
    เป็นบริการที่ช่วยปรับแต่งแก้ไขทรงเดิมให้ดูเนียนสวย ภายใต้โครงสร้างใหม่ สวยเป๊ะแบบดารา
  • บริการปรับแต่งด้วยเทคนิคSLOPE60
    เป็นเทคนิคพิเศษ โดยศัลยแพทย์จะทำการปรับรูปทรงให้ทรงสวยเหมือนน้ำกำลังหยด
  • บริการปรับแต่งด้วยเทคนิคตัดบริเวณปีกจมูก
    เป็นเทคนิคการปรับแต่งโดยวิธีตัดบริเวณปีกจมูก ให้ดูสมดุล เพื่อผลลัพธ์ที่ดูสวยหวานเป็นธรรมชาติ

เสริมจมูก ทรงจมูกสวยๆ ธรรมชาติ

ทรงจมูกที่สวย นอกจากความโด่ง สโลป ปลายพุ่งแล้ว ต้องคำนึงถึงความเข้ากันกับใบหน้าของคนไข้เองด้วย โดยการเสริมจมูกให้ได้รูปทรงสวย ๆ มีความเป็นธรรมชาติจะมีรูปทรงที่ได้รับความนิยมดังนี้ ทรงจมูกเกาหลี ทรงจมูกสายฝอ ทรงจมูกสโลปปลายพุ่ง จมูกทรงบาร์บี้ไลน์ จมูกทรงหยดน้ำ ทรงจมูกปลายเชิด จมูกทรงตั๊กแตน

ซึ่งแต่ละรูปทรงที่ได้กล่าวมาจะได้รับความนิยมจากสาวไทยอย่างมาก ถึงแม้จะมีทรงจมูกที่ได้คะแนนความชอบมากแค่ไหน ก็ควรให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านช่วยพิจารณารูปทรงตามความเหมาะสมกับเนื้อจมูกเดิมของคนไข้ก่อนตัดสินใจศัลยกรรมจมูกนะครับ เพื่อความปลอดภัย และความสวยปังตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ

Rhinoplasty

เหมาะกับใครบ้าง

การเสริมจมูกเพื่อปรับรูปทรงให้เหมาะกับโครงสร้างใบหน้านั้น ต้องเริ่มสังเกตจากตัวเองว่าอยู่ในระดับที่สามารถทำจมูกได้หรือไม่ โดยมีแนวทางดังนี้

  • คนไข้ทั้งชาย และหญิงควรมีอายุตั้งแต่ 18 – 20 ปีบริบูรณ์ เนื่องจากโครงสร้างใบหน้ากับจมูกจะเจริญเติบโตเต็มที่แล้ว
  • คนไข้ต้องไม่ได้อยู่ในช่วงตั้งครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร
  • คนไข้ต้องไม่มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน, โรคความดันโลหิตสูง, โรคหัวใจ, หากมีโรคดังกล่าวแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนเข้ารับการศัลยกรรมจมูก
  • คนไข้ต้องไม่ใช้ยาป้องกันการแข็งตัวของลิ่มเลือด หรือมีภาวะลิ่มเลือดอุดคัน รวมไปถึงหลอดเลือดมีอาการผิดปกติ เช่น เส้นเลือดตีบ เพราะอาจส่งผลกระทบกับคนไข้ได้ในภายหลัง
  • คนไข้ที่เป็นหวัด หรือมีแผลติดเชื้อ อาจต้องรักษาให้หายเป็นปกติก่อนจึงจะสามารถเสริมจมูกได้

เทคนิคเสริมจมูกมีกี่แบบ

การเสริมแบบเปิด (Open Rhinoplasty)

หรือที่เรียกว่าเสริมจมูกแบบโอเพ่น เป็นเทคนิคการแก้ปัญหาจมูกที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากศัลยแพทย์จะสามารถเห็นโครงสร้างภายในจมูกได้ทั้งหมด จึงทำให้ปรับแต่งโครงสร้างเดิมที่ปัญหา ก่อนเสริมจมูกใหม่ โดยเทคนิคนี้จะเหมาะกับคนไข้ที่มีปัญหา จมูกคดเบี้ยว, มีฮัมพ์จมูกเยอะ, จมูกสั้น, หรือจมูกผิดรูปจากอุบัติเหต และตั้งแต่กำเนิด ซึ่งเป็นการเสริมโดยใช้ซิลิโคนในการปรับโครงสร้าง พร้อมรองปลายจมูก เพื่อป้องกันการทะลุ

การเสริมจมูกแบบปิด (Closed Endonasal Rhinoplasty)

ศัลยแพทย์จะใช้เทคนิคการเปิดแผลบริเวณขอบรูจมูกฝั่งใดฝั่งหนึ่ง หรือทั้งสองข้าง เพื่อสร้างช่องว่างที่สันจมูกใต้เยื่อหุ้มกระดูก เพื่อใส่แท่งซิลิโคนเข้าไปตามรอบแผลผ่าตัดพร้อมกับตกแต่งโครงสร้างภายใน และปลายจมูก เป็นเทคนิคที่เหมาะกับคนไข้ที่โครงสร้างจมูกเดิมไม่มีปัญหามากเท่าไหร่ แต่ถ้ากังวลว่าซิลิโคนจะทะลุ ก็สามารถรองปลายจมูกด้วยกระดูกอ่อนหลังใบหูได้ เพื่อเพิ่มความทนทานการเสียดสี

เสริมจมูก อันตรายไหม ?

การเสริมจมูกเป็นหนึ่งในหัตถการที่มีความเสี่ยงค่อนข้างสูง รวมถึงผลข้างเคียงแทรกซ้อนที่อาจเกิด ขึ้นอยู่ว่าจะมากหรือน้อยแค่ไหน ฉะนั้นก่อนคนไข้จะตัดสินใจทำจมูก ก็ควรพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ เช่น การเลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์เชี่ยวชาญ สามารถประเมิน และออกแบบซิลิโคนให้เข้ากับใบหน้าของคนไข้ได้อย่างเหมาะสม เพื่อช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่พึงพอใจ ตรงความต้องการของคนไข้ อีกทั้งต้องคำนึงเกี่ยวกับการเลือกใช้ซิลิโคนที่มีคุณภาพ เพื่อเพิ่มความปลอดภัย และลดโอกาสเสี่ยงจากสาเหตุต่าง ๆ

เสริมจมูกผู้ชาย ทำจมูกผู้หญิง แตกต่างกันไหม ?

จริง ๆ แล้วการเสริมจมูกนั้นเป็นที่นิยมทั้งในกลุ่มของผู้หญิงและผู้ชาย แต่ถึงอย่างไรการแก้ไขปัญหาทรงจมูก หรือเพิ่มความโด่ง ก็ยังมีความต้องการที่แตกต่างกัน ได้แก่

-การเสริมจมูกผู้ชาย จะเน้นไปในส่วนของการทำแล้วดั้งโด่งมาก หรือมีสันจมูกตรงสวยตั้งแต่ช่วงระหว่างคิ้วลงมา เพื่อเพิ่มความคมให้กับรูปลักษณ์ใบหน้า
-เสริมจมูกผู้หญิง จะนิยมทำรูปทรงจมูกให้ดูอ่อนช้อย มีส่วนโค้ง สันจมูกสโลปลง ปลายโด่ง ทำออกมาแล้วหน้าจะดูสวยหวาน หรือโฉบเฉี่ยวมากกว่าเดิม

ซึ่งการเสริมจมูกไม่ได้จำกัดว่าถ้าเป็นผู้ชายต้องทำเฉพาะทรงนี้ หรือผู้หญิงต้องเป็นรูปแบบนี้เท่านั้น เพราะส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับความพอใจ และลักษณะใบหน้าของแต่ละคนนั่นเอง

ปัญหาทรงจมูกผู้ชายที่ทำให้ต้องเสริมจมูก

จมูกของผู้ชายจะมีโครงสร้างใหญ่ และฐานจมูกจะกว้าง เป็นลักษณะเฉพาะของผู้ชาย บางคนก็ชอบรูปทรงเดิม หรือบางคนก็รู้สึกว่าโด่งหรือใหญ่เกินไป ซึ่งปัญหาเหล่านี้ที่ทำให้ผู้ชายต้องการแก้จมูกแตกต่างกัน เพื่อหาทางแก้ปัญหาที่ถูกต้องการเข้ารับคำปรึกษากับแพทย์ผู้มีประสบการณ์จึงจำเป็น เพราะแพทย์จะสามารถวิเคราะห์ปัญหา พร้อมให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเสริมจมูกทรงผู้ชายออกมาได้อย่างเหมาะสม โดยปัญหาที่แพทย์เจอหลัก ๆ จากผู้ชายที่ต้องการเสริมจมูกมีดังนี้ 

  • ฮัมพ์ (Hump) กระดูกบริเวณสันจมูกที่นูนสูง จะส่งผลทำให้ดูไม่เรียบเนียน และยังทำให้ใบหน้าดูดุ ซึ่งฮัมพ์ของแต่ละบุคคลก็จะแตกต่างกันออกไปตามกรรมพันธ์ จึงทำให้ผู้ชายบางส่วนต้องการแก้จมูกจากปัญหาฮัมพ์นั่นเอง
  • จมูกโต จะมีลักษณะสั้นเนื้อจมูกหนาปลายใหญ่ โดยปลายอาจบานออกด้านข้างจนดูคล้ายกับผลไม้อย่างชมพู่ ซึ่งอาจทำให้ใบหน้าไม่ได้สัดส่วน จมูกดูแบน เป็นผลมาจากกรรมพันธ์ที่ทำให้เนื้อบริเวณจมูกน้อย หากปลายเชิดขึ้นอีก อาจจะเหมือนกับจมูกหมู จึงทำให้ผู้ชายต้องการเสริมจมูกเพื่อเพิ่มมิติให้ใบหน้า
  • จมูกงุ้มเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ทำให้ผู้ชายต้องการแก้สูง เพราะจมูกลักษณะดังกล่าวจะทำให้ใบหน้าดูเคร่งเครียด เหมือนโกรธอยู่ตลอดเวลา ดูไม่ค่อยเป็นมิตร บางคนอาจไม่ได้ใส่ใจมากแต่ถ้าทำงานด้านบริการก็อาจส่งได้เช่นกัน

วัสดุที่ใช้ในการศัลยกรรมจมูก

สำหรับวัสดุที่ใช้ในการศัลยกรรมจมูกนั้น จะถูกแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ ซิลิโคน – กระดูกอ่อน ที่ได้รับความนิยม และได้รับการยอมรับจากแพทย์ชั้นนำ โดยวัสดุที่นำมาใช้มีความแตกต่างกันดังนี้

1. ซิลิโคน

การเสริมจมูกแบบที่นำซิลิโคนมาใช้ จะทำให้ได้รูปทรงที่คงที่แน่นอน สามารถปรับให้เข้ากับรูปทรงจมูกต่าง ๆ ได้ทุกรูปแบบ และใช้เวลาพักฟื้นน้อย รวมถึงเป็นราคาที่สามารถจับต้องได้ โดยประเภทของซิลิโคนก็ถูกแบ่งไว้ 2 ประเภทได้แก่

จะเป็นซิลิโคนที่ขึ้นเป็นทรงมาให้แล้ว ทำให้มีโอกาสเบี้ยว หรือเอียงน้อยลง สามารถเรียกชื่อได้ตามลักษณะทรงจมูก แต่ก็อาจจะไม่เหมาะกับทุกคน เช่น ซิลิโคนแมนทิส (Mantis Silicone), ซิลิโคนบาร์บี้ (Barbie Silicone), ซิลิโคนจมูกอเมริกา (USA Silicone), ซิลิโคนจมูกเกาหลี (Korea Siliocone) เป็นต้น

ซิลิโคนแบบเหลาเองจะมีลักษณะเป็นแท่ง หรือบล็อกสี่เหลี่ยม โดยแพทย์จะเป็นผู้ดีไซน์ และเหลาทรงให้เหมาะสมกับรูปทรงจมูกของคนไข้ นั้นหมายความว่าต้องอาศัยแพทย์ที่มีประสบการณ์เชี่ยวชาญ รวมถึงต้องมีความแม่นยำสูง เนื่องจากตัวซิลิโคนจะมีลักษณะเรียบลื่น ไม่เป็นขุ่ย และยังสามารถแบ่งย่อยได้อีก 4 ชนิด แข็ง, แข็งปานกลาง, นุ่ม และนุ่มมาก 

2. กระดูกอ่อน

การเสริมจมูกโดยใช้กระดูกอ่อน จะสามารถช่วยลดความเสี่ยงบริเวณปลายจมูกไม่ให้ทะลุได้ในระยะยาว เพราะเพิ่มความหนาของผิวหนังบริเวณปลายจมูกไว้ แถมยังป้องกันไม่ให้ซิลิโคนไม่กระทบกับผิวหนังโดยตรง จึงช่วยลดการเสียดสี และส่งเสริมให้จมูกดูมีความธรรมชาติอีกด้วย ซึ่งกระดูกอ่อนที่ได้รับความนิยมมีอยู่ด้วย 3 ตำแหน่ง

จะเป็นตำแหน่งที่นิยมใช้มากที่สุด เพราะกระดูกอ่อนมีลักษณะโค้งงอเล็กน้อย หลังจากนำกระดูกอ่อนออกมา จะไม่ทำให้ใบหูดูผิดปกติ แต่อาจจะต้องเพิ่มการดูแลแผลหลังใบหูเพิ่มขึ้น และต้องงดสระผมประมาณ 1 – 2 สัปดาห์

ถือว่าเป็นเทคนิคการผ่าตัดแบบเปิดยืดผนังกั้นจมูก และนำกระดูกอ่อนที่อยู่บริเวณกึ่งกลางรูจมูกออกมาใช้บางส่วน เพื่อปรับตำแหน่งรูปทรงจมูก พร้อมเสริมให้ดูยาวขึ้น ซึ่งจะส่งผลทำให้ปลายจมูกดูพุ่งกว่าเดิม แถมไม่ต้องมีแผลแบบการเสริมด้วยกระดูกอ่อนหลังใบหู

การเสริมด้วยกระดูกอ่อนซี่โครง แพทย์จะต้องผ่าตัดเพิ่มเติม เพื่อนำกระดูกอ่อนซี่โครงขนาด 2 – 5 เซนติเมตร ออกมาจำนวน 1 – 2 ซี่ โดยอาจทำให้มีแผลบริเวณใต้ราวนม รวมถึงใช้เวลาในการผ่าตัดนาน มีค่าใช้จ่ายที่สูง แต่จะได้จมูกที่สวยธรรมชาติแบบถาวร อย่างไรก็ตามวิธีนี้ต้องอาศัยแพทย์ที่มีประสบการณ์สูงเท่านั้น เพื่อความปลอดภัย

ศัลยกรรมจมูกพร้อมตัดปีกจมูก

อย่างที่คนไข้ทุกคนทราบกันดีว่า แพทย์ได้อธิบายไปในช่วงต้นบทความว่า ลักษณะทางพันธุกรรมส่งผลทำให้คนเอเชียมีฐานจมูก และปีกจมูกที่กว้าง จึงนิยมเสริมดั้งไปพร้อมกันกับการผ่าตัดปีกจมูก ให้แคบลงจากการศัลยกรรมเพียงครั้งเดียว ซึ่งการลดขนาดปีกจมูกจะเป็นการแก้ไขปีกด้านข้างที่มีผิวหนังกับกล้ามเนื้อเท่านั้น แผลจะถูกซ่อนไว้บริเวณขอบปีกจมูก ทำให้ต้องคำนึงถึงความสมดุลของจมูกว่าเหมาะกับใบหน้าเป็นหลัก ไม่ใช้เพียงทำให้รูจมูกเล็กลงครับ โดยขั้นตอนการตัดปีกจมูกมีดังนี้

ขั้นตอนตัดปีกจมูก

  1. คนไข้ต้องปรึกษาแพทย์ และวางแผนการผ่าตัดร่วมกัน เพื่อให้ผลลัพธ์ออกไปในทางเดียวกัน
  2. แพทย์จะเริ่มทำความสะอาดบริเวณโพรงจมูก และตำแหน่งที่จะทำการผ่าตัด
  3. อาจมีการฉีดยาชา หรือวางยาสลบ (หากเป็นกรณีที่ใช้เทคนิคการเสริมจมูกแบบเปิด)
  4. แพทย์จะเริ่มผ่าตัดเนื้อเยื่อส่วนเกินออก และปรับโครงสร้างฐานจมูกใหม่ อาจใช้เวลาในการผ่าตัดพอสมควร
  5. หลังจากผ่าตัดเสร็จแพทย์จะทำการเย็บปิดแผล และให้คนไข้นอนพักฟื้นอย่างน้อย 1 ชั่วโมง
  6. แพทย์จะแนะนำให้กลับมาติดตามผล และตัดไหมหลังจากผ่านไปแล้ว 1 สัปดาห์

การเตรียมตัวก่อนทำจมูก

  1. แนะนำให้แจ้งรายละเอียดข้อมูลสุขภาพให้ครบถ้วน หากมีโรคประจำตัว หรือยาที่รับประทานเป็นประจำ เนื่องจากแพทย์จะได้ตรวจสอบว่ามีผลกระทบมากน้อยแค่ไหน
  2. หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารเสริม สมุนไพร และวิตามินทุกชนิดก่อนเข้ารับการผ่าตัดอย่างน้อย 1 สัปดาห์ เพราะอาจส่งผลกับการไหลเวียดเลือด
  3. งดการสูบบุหรี่อย่างน้อย 1 เดือน เพื่อป้องกันภาวะเนื้อเยื่อขาดเลือดมาเลี้ยง
  4. งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์อย่างน้อย 2 – 4 สัปดาห์ก่อนเข้ารับการผ่าตัด เนื่องจากแอลกอฮอล์จะทำให้เลือดสูบฉีดเพิ่มมากขึ้น
  5. หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารทะเล, ของหมักดอง เพราะจะส่งผลทำให้แผลบริเวณที่ผ่าตดเสริมจมูกอักเสบได้
  6. แนะนำให้งดน้ำ และอาหารอย่างน้อย 1 วัน ในกรณีที่เป็นการผ่าตัดเสริมจมูกแบบเปิด เนื่องจากจะมีการวางยาสลบ

ขั้นตอนการเสริมจมูก

  1. อาจมีการใช้ยาชา หรือวางยาสลบ ขึ้นอยู่กับปัญหาความซับซ้อนในการผ่าตัดเสริมจมูก โดยแพทย์จะเป็นผู้พิจารณาในเรื่องนี้ หากเป็นการผ่าตัดด้วยเทคนิคแบบเปิดวิสัญญีแพทย์จะเป็นผู้วางยาสลบให้แก่คนไข้ แต่ถ้าเปิดการผ่าตัดแบบปิดจะเป็นการฉีดยาชาเฉพาะจุด 
  2. สำหรับการผ่าตัดแพทย์จะเลือกใช้เทคนิคตามความเหมาะสมของแต่ละเคส เพื่อแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด ไม่ว่าจะเป็นการปรับโครงสร้างจมูก การเหลาซิลิโคน การกรีดเปิดแผล หรือตกแต่งรูปทรงจมูก ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 2 – 3 ชั่วโมง 
  3. เมื่อทำการผ่าตัดเสร็จแล้ว แพทย์จะทำการเย็บปิดแผล หรือบางกรณีที่ต้องเข้าเฝือกบริเวณจมูก และใช้เวลาในการพักฟื้นประมาณ 5 – 7 วัน ก่อนแพทย์จะนัดเข้ามาติดตามผล และตัดไหม

การดูแลตัวเองหลังผ่าตัดเสริมจมูก

หลังจากทำจมูกมาแล้วคนไข้อาจพบว่ามีอาการข้างเคียง เช่น ใต้ตาบวมช้ำ, มีรอยเขียวช้ำ, มีเลือดออก, แน่นจมูก หรือตึงบริเวณแผลผ่าตัด ซึ่งคนไข้ต้องดูแลอย่างเคร่งครัดโดยแพทย์มีคำแนะนำสำหรับการดูแลดังนี้ 

  • แนะนำให้ประคบเย็นด้วยผ้าเย็น หรือคลูแพ็คบริเวณหน้า โดยหลีกเลี่ยงการโดนแผลผ่าตัด จะช่วยทำให้เลือดหยุดไหล และลดอาการบวมลงได้ 
  • หากแผลผ่าตัดเริ่มปิดสนิท แพทย์จะแนะนำให้เปลี่ยนมาเป็นการประคบอุ่น เพื่อช่วยลดรอยเขียวช้ำได้ 
  • หลีกเลี่ยงการ แคะ, แกะ, เกา, สัมผัส, ขยี้บริเวณแผลผ่าตัดเป็นอันขาด เนื่องจากอาจทำให้แผลฉีกขาดได้ครับ 
  • แนะนำให้นอนโดยใช้หมอนรองคอ เนื่องจากต้องการให้ศีรษะสูงกว่าลำตัว เพื่อป้องกันภาวะเลือดคั่งในโพรงจมูก และหลีกเลี่ยงการพลิกตัวนอนคว่ำ 
  • ช่วง 1 สัปดาห์หลังจากทำจมูกมาควรหลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีฝุ่นละอองปกคลุมหนาแน่น เพื่อป้องกันอาการไอจาม
  • แนะนำให้รับประทานอาหารอ่อน งดการทานอาหารแข็ง และเหนียว เพื่อหลีกเลี่ยงการขยับใบหน้าบ่อย ๆ 
  • งดการล้างหน้า หรือห้ามให้แผลผ่าตัดโดนน้ำเด็ดขาดอย่างน้อย 3 วัน เนื่องจากความอับชื้นจะทำให้เกิดการติดเชื้อได้ง่าย 
  • หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารประเภทหมักดอง อาหารทะเล หรืออาหารรสจัด เนื่องจากจะทำให้แผลอักเสบ และหายได้ช้าลง 
  • งดการสูบบุหรี่ หรือดื่มแอลกอฮอล์ประมาณ 1 เดือน เพราะมีสารบางชนิดส่งผลทำให้แผลสมานตัวได้ช้า 
  • หลีกเลี่ยงการออกกำลังกาย เช่นการวิ่ง, ว่ายน้ำ, ยกของหนัก หรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมถึงมีเพศสัมพันธ์ เนื่องจากอาจทำให้จมูกที่ยังไม่เข้าที่ผิดรูปได้ 
  • หากพบว่ามีอาการผิดปกติ ให้รีบไปพบแพทย์ทันที 

www.upfacecenter.com

UpFace AI Clinic

การทำศัลยกรรมนับเป็นหนึ่งสิ่งที่คนในสมัยนี้เปิดกว้างมากขึ้นหลายๆ คนจึงอยากทำเพื่อทำการแก้ไขปัญหาบนใบหน้าให้สวยสมส่วน ถึงแม่คลินิกเสริมความงามในท้องตลาด จะเปิดมากขึ้น ตามความต้องการของผู้ใช้บริการมากเพียงใด ก็ไม่ได้มีการการันตีว่าทุกคลินิกที่เปิดจะเป็นคลินิกที่ดี ได้รับมาตรฐานสะอาด หรือทำการผ่าตัดศัลยกรรมแล้วจะปลอดภัย ดังนั้นควรเลือกสถานที่เข้ารับบริการให้ดี โดยการหาข้อมูลเปรียบเทียบหลายๆ ที่เพื่อให้การทำศัลยกรรมส่งผลที่ดีที่สุด และได้ผลลัพธ์ที่ดีเป็นที่น่าพึงพอใจที่สุด