ศูนย์เวชกรรมชะลอวัย
โอโซนบำบัด (Ozone Therapy)
การบำบัดด้วย Oxygen Booster ( Ozone Therapy ) ถูกค้นพบโดยนักเคมีชาวเยอรมันชื่อ Christian Frederick Schonbein เมื่อปี ค.ศ. 1840 โดยเริ่มแรกนั้นมีการใช้โอโซนฆ่าเชื้อและทำความสะอาดห้องผ่าตัด ตลอดจนฆ่าเชื้อโรคในน้ำดื่ม ต่อมาได้มีการนำมาประยุกต์ใช้รักษาผู้ป่วยที่เป็นโรคภูมิแพ้ โดยดึงเลือดของผู้ป่วยออกมาประมาณ 10 cc แล้วใส่ Oxygen Booster ให้กับเลือดแล้วจึงฉีดกลับที่กล้ามเนื้อสะโพก (Auto Vaccine) พบว่าการรักษาได้ผลดี จึงเป็นที่มาของการบำบัดด้วยโอโซนในปัจจุบัน ซึ่งมีวิธีการแตกแขนงออกมามากมายในการนำเอาโอโซนเข้าร่างกายเพื่อการบำบัด
หลักการบำบัดด้วยโอโซน
การบำบัดด้วยโอโซนนั้นใช้ประโยชน์จากลักษณะโครงสร้างที่ไม่เสถียรของตัวโอโซน ซึ่งประกอบไปด้วยโมเลกุลของออกซิเจนจำนวน 3 อะตอม โดยเครื่องกำเนิดโอโซนจะแปลงออกซิเจนบริสุทธิ์ ซึ่งประกอบด้วยโมเลกุลออกซิเจนจำนวน 2 อะตอม จากแหล่งกำเนิดให้กลายเป็นโอโซน เมื่อโมเลกุลของโอโซนผสมกับเลือดจากผู้รับการบำบัดในร่างกาย แล้วโมเลกุลของโอโซนจะเกิดการแตกตัวออกเป็น 2 ส่วน คือ…
- O2 (ออกซิเจนบริสุทธิ์) ซึ่งช่วยเพิ่มพลังงานให้กับเซลล์
- O (Singlet Oxygen หรือออกซิเจนอะตอมเดี่ยว) ซึ่งไม่เสถียร โดยออกซิเจนโมเลกุลเดี่ยวจะวิ่งไปจับกับโมเลกุลต่างๆ ในเนื้อเยื่อและกระแสโลหิต เกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่น (Oxidative Reaction)
ผลระยะสั้นต่อสุขภาพ
-ช่วยให้ระบบการไหลเวียนเลือดดีขึ้น โดยโอโซนช่วยลดการเกาะกลุ่มของเม็ดเลือดแดง ลดความหนืดของเลือด จึงทำเลือดไหลเวียนสะดวก นอกจากนี้ ช่วยให้เม็ดเลือดแดงปล่อยออกซิเจนไปให้เนื้อเยื่อที่ไปเลี้ยงได้เป็นอย่างดี ทำให้ร่างกายได้รับออกซิเจนอย่างทั่วถึง
-ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน โดยทำให้เม็ดเลือดขาวแข็งแรง สามารถกำจัดเชื้อแบคทีเรียและไวรัสได้ดีขึ้น ทำให้ผู้ที่ไม่สบายจากการติดเชื้อฟื้นตัวเร็ว
-ช่วยปรับสมดุลระบบภูมิคุ้มกันที่ไวเกิน จึงช่วยลดอาการภูมิแพ้และโรคออโตอิมมูน
-ช่วยกระตุ้นการหลั่งโกรทแฟคเตอร์จากเกร็ดเลือด เพื่อช่วยซ่อมแซมร่างกาย และทำให้ดูอ่อนเยาว์
สามารถกระตุ้นร่างกายให้แข็งแรง “คล้ายการฉีดวัคซีนสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย”
ปฏิกิริยาออกซิเดชั่นนั้น ก่อให้เกิดประโยชน์ในการรักษา ดังนี้
มีฤทธิ์ในการกำจัดจุลชีพที่ไม่ใช้ออกซิเจน ซึ่งได้แก่ ไวรัสและแบคทีเรียบางชนิด การบำบัดด้วยโอโซนจึงสามารถใช้ในการรักษาโรคที่เกิดจากการติดเชื้อจุลชีพในกลุ่มดังกล่าวได้ เช่น โรคหวัด เริม งูสวัด และไวรัสตับอักเสบ
ขับล้างสารพิษตกค้างในร่างกาย โดยช่วยเปลี่ยนสารพิษและของเสียให้เป็นสารที่มีความเฉื่อย และถูกขับออกทางตับและไตโดยไม่เกิดอันตราย Singlet Oxygen หรือออกซิเจนอะตอมเดี่ยวนั้น ยังสามารถจับกับโปรตีนที่ผนังเซลล์ของเชื้อไวรัส และแบคทีเรียที่ล่องลอยอยู่ในกระแสโลหิต ดึงดูดให้เม็ดเลือดขาวมากำจัดเชื้อโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ประโยชน์ของโอโซนบำบัด
- -กระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดขาวให้มีปริมาณเพียงพอต่อการปกป้องร่างกาย เพิ่มประสิทธิภาพในการกัดกินเชื้อโรคของเม็ดเลือดขาว จากระดับแกมมาอินเตอเฟียรอนที่เพิ่มขึ้น 400 – 900%
- -กระตุ้นการหลั่งอินเตอร์ลิวคินจากลิมโฟไซต์ เพิ่มประสิทธิภาพในการกำจัดเชื้อโรค
- -เพิ่มความยืดหยุ่นของเซลล์เม็ดเลือดขาวและเม็ดเลือดแดง จึงทำให้เซลล์เม็ดเลือดสามารถเคลื่อนตัวผ่านไปยังหลอดเลือดฝอยเล็กๆ ได้เพิ่มขึ้น มีประโยชน์ในการรักษาแผลเรื้อรังจากเบาหวาน และแผลกดทับ
- -เพิ่มการผลิตพลังงานในไมโตคอนเดรีย ช่วยบรรเทาอาการอ่อนเพลีย และเพิ่มสมรรถภาพการออกกำลังกายในกลุ่มนักกีฬา
- -กระตุ้นการสร้างเอนไซม์ที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย ได้แก่ ซุปเปอร์ออกไซด์ดิสมิวเตส คาตาเลสและกลูต้าไธโอนเปอร์ออกซิเดส
โอโซนบำบัดเหมาะกับใคร
- ผู้ที่ป่วยเป็นไข้หวัด หรือมีภาวะติดเชื้อ
- ผู้ป่วยโรคตับอักเสบ เริม งูสวัด
- ผู้ป่วยโรคมะเร็ง โดยโอโซนอะตอมเดี่ยวจะไปเกาะกับผิวของเซลล์มะเร็ง ทำให้เซลล์มะเร็งถูกกำจัดไปโดยระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
- ผู้ที่มีปัญหาภูมิแพ้ ลมพิษ หอบหืด
- ผู้ป่วยโรคภูมิเพี้ยน SLE รูห์มาตอยด์ สะเก็ดเงิน
- ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบไหลเวียนโลหิต รวมทั้งผู้ป่วยโรคลมปัจจุบัน (Stroke) และผู้ป่วยพาร์คินสันที่เลือดไปเลี้ยงสมองได้ไม่เพียงพอ
- ผู้ที่มีปัญหาแผลเรื้อรัง เช่น แผลเบาหวาน แผลกดทับในผู้ป่วยที่ต้องนอนนิ่งๆ เป็นเวลานาน โรคที่เกี่ยวกับเชื้อราต่างๆ และอีกมากมาย สนใจสอบถามได้โดยตรง
อุปกรณ์ในการทำโอโซนบำบัดทั้งหมด จะเป็นชุดอุปกรณ์เฉพาะบุคคลและใช้งานเพียงครั้งเดียว โดยไม่มีการนำกลับมาใช้ซ้ำ และดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่ผู้มีความชำนาญ จึงมั่นใจได้ว่ากระบวนการรักษามีความสะอาด ปลอดภัย และได้มาตรฐาน
ผลลัพธ์ที่ได้และระยะเวลา
การทำโอโซนบำบัด หรือ Oxygen Booster – ( Ozone Therapy )ทางหลอดเลือดดำ ช่วยกระตุ้นร่างกายทำให้ร่างกายแข็งแรงแบบสะสม “คล้ายการออกกำลังกาย” ซึ่งการทำโอโซนบำบัดทางหลอดเลือดดำครั้งแรกๆ อาจจะยังไม่เห็นผลในการรักษาชัดเจน แต่เมื่อทำอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ ผลการรักษาจะเพิ่มมากขึ้น คล้ายกับการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ก็จะทำให้ร่างกายแข็งแรง โดยทั่วไปแนะนำทำ 10 ครั้ง ห่างกันสัปดาห์ละ 1 ครั้ง แต่คนที่มีปัญหาสุขภาพแพทย์อาจสั่งให้ทำมากกว่าและถี่กว่านี้ได้ ขึ้นกับดุลยพินิจของแพทย์ หลังจากครบ 10 ครั้งแล้ว แนะนำให้ทำต่อเนื่องเดือนละ 1 ครั้ง ไปเรื่อยๆ หรือทำปีละ 10 ครั้ง เพื่อเป็นการดูแลสุขภาพอย่างต่อเนื่อง มีบางคนคิดกว่าการทำโอโซนบำบัดทางหลอดเลือดดำเป็นการกระตุ้นร่างกายคล้ายการใช้ยา เมื่อหยุดรักษาอาจมีอาการข้างเคียงหรือโรคที่เป็นมากขึ้น เหมือนการหยุดยาระบายแล้วท้องผูกมากขึ้น จริงๆ แล้ว โอโซนบำบัดทางหลอดเลือดดำเป็นการกระตุ้นร่างกายคล้ายการออกกำลังกาย สร้างภูมิต้านทานให้ร่างกายแข็งแรง ดังนั้น การหยุดออกกำลังกายหรือการหยุดการทำโอโซนบำบัดทางหลอดเลือดดำ จึงไม่มีผลทำให้ร่างกายแย่ลงกว่าเดิม
โอโซนบำบัด มีอาการข้างเคียงหรือไม่
โอโซนเป็นก๊าซที่อาจก่อให้เกิดอันตรายได้ ถ้าได้รับปริมาณความเข้มข้นสูงระดับหนึ่ง ควรใช้โดยผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น อาจก่อให้เกิดอาการต่างๆ ได้ดังนี้…
คำเตือน
ดังที่เคยกล่าวไว้แล้วว่า โอโซนมีทั้งดีและร้าย ดังนั้น การใช้โอนโซนเพื่อการบำบัด ควรอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น ไม่ควรทำด้วยตนเอง เพราะอาจเกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ ในการใช้ทั่วๆ ไป จะสังเกตว่าไม่มีคำเตือนถึงอันตรายจากการใช้โอโซนกันอย่างจริงจัง และถูกใช้โดยไม่ทราบถึงอันตรายหรือพิษภัย ใช้กันพร่ำเพรื่อในสถานเสริมความงามในบ้านเรือน แม้กระทั่งในรถ โดยผู้ใช้ไม่มีความรู้หรือเชี่ยวชาญเพียงพอที่จะควบคุม ซึ่งจุดนี้เป็นข้อเสียและอันตรายอย่างมาก อาจก่อให้เกิดภาวะความเจ็บป่วย อันเกิดจากการใช้ที่ไม่ระมัดระวังจนถึงแก่ชีวิตได้โดยไม่ตั้งใจ
อินฟราเรด ซาวน่า (Infrared Sauna)
Infrared Sauna (อินฟราเรดซาวน่า) คือ นวัตกรรมใหม่ที่มีประสิทธิภาพในการช่วยเสริมสร้างประโยชน์ให้แก่สุขภาพร่างกายและผิวพรรณไปพร้อมๆ กัน โดยการทำงานด้วยคลื่นอินฟราเรดที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าและเป็นคลื่นความถี่ในระดับที่เหมาะสม ซึ่งพลังงานความร้อนจากคลื่นอินฟราเรด (FIR) นั้น จะให้ความอบอุ่นต่อร่างกายของเราไม่ต่างจากความอบอุ่นจากแสงอาทิตย์ เพียงแต่จะไม่มีรังสียูวี ดังนั้นจึงไม่มีผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย และในทางการแพทย์เองก็มีการใช้คลื่นอินฟราเรดในการบำบัดอาการผิดปกติของร่างกายเป็นที่แพร่หลายมานานแล้ว โดย Infrared Sauna (อินฟราเรดซาวน่า) นั้นเหมาะสำหรับบุคคลทุกเพศทุกวัย ด้วยหลักการการทำงานที่แตกต่างจากซาวน่าแบบทั่วไป ดังนี้…ความรู้เรื่องอินฟราเรด..
การทำงานของซาวน่าแบบทั่วไป จะทำให้อากาศภายในห้องร้อนขึ้นในอุณหภูมิที่สูงมาก ส่งผลให้ร่างกายมีอุณหภูมิสูงขึ้น และเราจะเกิดความรู้สึกอึดอัด หายใจไม่สะดวก ผิวหนัง เส้นผม รวมถึงเซลล์ต่างๆ ในร่างกายก็จะได้รับผลเสียตามไปด้วย
พลังงานอินฟราเรด?
พลังงานอินฟราเรด เป็นพลังงานคลื่นยาว (wave lengths) ที่เหมาะสมกับร่างกายมนุษย์ และสามารถดูดซับพลังงานความร้อนได้ดีที่สุดในช่วง 4-14 ไมครอน (ประสิทธิภาพสูงสุดในการดูดซับพลังงาน จะเกิดขึ้นที่ 9.4 ไมครอน)
Infrared Sauna (อินฟราเรดซาวน่า) เหมาะสำหรับ
- ผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพ
- ผู้ที่ต้องการเผาผลาญแคลอรี่จากการกินจุ
- ผู้ที่ไม่มีเวลาออกกำลังกาย
- ผู้ที่มีการไหลเวียนโลหิตไม่ดี
- ผู้ที่ต้องการขับสารพิษออกจากร่างกาย
- ผู้ที่มีอาการปวดตึงกล้ามเนื้อเรื้อรัง
- ผู้ที่ไม่มีเวลาออกกำลังกาย หรือผู้บาดเจ็บซึ่งไม่สามารถทำกิจกรรมหนักๆ ได้
ความปลอดภัยจากการรับบริการ Infrared Sauna (อินฟราเรดซาวน่า)
- การทำอินฟราเรดซาวน่านั้นมีความปลอดภัยสูง เนื่องจากสามารถตั้งเวลาและควบคุมอุณหภูมิได้ เครื่องจะหยุดทำงานโดยอัตโนมัติ เมื่อครบเวลาตามที่กำหนดหรืออุณหภูมิสูงขึ้นจนเกินระดับที่ตั้งไว้ ดังนั้นคุณจะรู้สึกผ่อนคลาย โดยไม่ต้องกังวลถึงระดับอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้น
- ความร้อนอินฟราเรดคลื่นสูง เป็นการบำบัดสุขภาพ โดยใช้หลักการจากธรรมชาติ และมีความปลอดภัย สำหรับ สิ่งมีชีวิตทุกประเภท ปัจจุบัน ตู้อินฟราเรดถูกนำไปใช้ในโรงพยาบาล คลินิกหลายแห่งในประเทศไทย
ประโยชน์ของการทำ Infrared Sauna (อินฟราเรดซาวน่า)
- ช่วยขยายหลอดเลือด กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต เร่งการขับเหงื่อ พร้อมช่วยฟื้นฟูสภาพเนื้อเยื่อที่ถูกทำลาย
- ช่วยเผาผลาญแคลอรี่ได้ถึง 600 Kcal
- ช่วยกำจัดสารพิษตกค้างในร่างกาย ทั้งในชั้นเนื้อเยื่อ และในกระแสเลือด
- ช่วยเร่งกระบวนการทางธรรมชาติของร่างกาย ทำให้เกิดการกระตุ้นต่อมเหงื่อ ซึ่งเป็นการทำความสะอาดและกำจัดสารพิษออกจากผิวหนังได้ดียิ่งขึ้น
- ช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ของผิวหนัง ทำให้ประสิทธิภาพในการกำจัดฝุ่นละออง • สารพิษตกค้างและเซลล์เก่าจากผิวหนังชั้นนอกให้หลุดลอกออกไป ส่งผลให้ผิวพรรณ กระจ่างใส ผิวกระชับ มีสุขภาพดี
- ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ลดความตึงเครียด กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย
- ช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดจากกล้ามเนื้อฉีกขาด หรือจากการบาดเจ็บในการเล่นกีฬา รวมทั้งอาการปวดเมื่อยตามร่างกายและไขข้อ
- ช่วยลดเซลลูไลท์ และอาการบวมน้ำ
- กระตุ้นการเผาผลาญไขมันได้ดี ทำให้สามารถควบคุมน้ำหนักได้ดียิ่งขึ้น (*การเผาผลาญขึ้นอยู่กับร่างกายของแต่ละบุคคล)
ผลลัพธ์ที่ได้และระยะเวลา
ข้อควรจำ ขั้นตอนในการเข้าซาวน่าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ชำระล้างร่างกายให้สะอาดเช็ดตัวพอหมาดแล้วพันตัวด้วยผ้าขนหนู ถ้าจะให้ดีควรเปลือย หรือใส่เสื้อผ้าให้น้อยชิ้นที่สุด ถอดเครื่องประดับให้เรียบร้อยด้วย หลังจากซาวน่า ให้นั่งปรับร่างกายสัก 10 – 15 นาที แล้วอาบน้ำเป็น ควรเริ่มต้นด้วยน้ำอุ่น แล้วตามด้วยน้ำเย็นเพื่อปิดรูขุมขนและเพื่อการผ่อนคลายร่างกายทุกส่วน อบซาวน่าได้สัปดาห์ละ 1 วัน ยืนยันว่าดีต่อสุขภาพและเสริมสาวเติมสวยได้อีกด้วย
Effect : มีผลทันที
How long : 45-60 นาที
How often : สัปดาห์ละครั้ง
Down time : ไม่ต้องพักฟื้น
Boost Circulation
Boost circulation ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบต่อมน้ำเหลือง ให้ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น การนวดที่ Drain ไปตามต่อมน้ำเหลือง และท่อน้ำเหลือง เป็นการกระตุ้นการขับถ่ายของเสียทำให้ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยมีคุณสมบัติในการขับสารพิษให้ขับออกมาตามท่อน้ำเหลือง และขับสู่ออกนอกร่างกายทางเหงื่อและปัสสาวะ ช่วยบรรเทาอาการเครียดและอาการอ่อนล้า แก้อาการซึมเศร้า ลดความวิตกกังวล ลดอาการหดหู่ ช่วยผ่อนคลาย กระตุ้นพลัง และเป็นตัวช่วยขับสารพิษได้ดี และยังช่วยปรับสมดุลให้กับร่างกายทำให้ร่างกายสดชื่นผ่อนคลายและนอนหลับได้ดีและยังทำให้ขอบขีดความสามารถในการฟื้นฟูร่างกายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
การทำงานหลักของการระบายน้ำเหลือง
- ของเหลว Liquid / Blood : กระตุ้นการทำงานของน้ำเหลือง และการไหลเวียนน้ำเหลือง
- ระบบคุ้มกัน Immune System : การผ่านของน้ำเหลืองในต่อมน้ำเหลือง กระตุ้นภูมิคุ้มกัน
- ระบบประสาท Nervous System : กระตุ้นระบบประสาทพาราซิมพาเธติก (ให้ผลในการผ่อนคลาย ยับยั้งความเจ็บปวด ต้านการกระตุก กล้ามเนื้อตึงตัว ฯลฯ) การนวดระบายน้ำเหลืองเป็นที่ยอมรับกันอย่างแพร่หลายทั่วยุโรป และเป็นทรีทเม้นท์ที่แนะนำให้โรงพยาบาลนำไปใช้เพื่อการดูแลสุขภาพการนวดระบายน้ำเหลือง
ผลลัพธ์ที่ได้และระยะเวลา
- ช่วยรักษาสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงอย่างยั่งยืนให้แก่คุณ
- ช่วยให้กระบวนการล้างสารพิษเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังอยู่ในช่วงล้างพิษ
- ช่วยลดอาการบวมน้ำ
- ช่วยบรรเทาริ้วรอยแผลเป็นและผิวส้ม
- ช่วยทำให้ผิวพรรณมีสุขภาพดีขึ้น
- ช่วยบรรเทาอาการปวดหัวไมเกรน
การล้างพิษระบบน้ำเหลือง
Effect : 90 นาที
How long : 30 นาที
How often : สัปดาห์ละครั้ง
Down time : ไม่ต้องพักฟื้น
www.upfacecenter.com
UpFace AI Clinic
การทำศัลยกรรมนับเป็นหนึ่งสิ่งที่คนในสมัยนี้เปิดกว้างมากขึ้นหลายๆ คนจึงอยากทำเพื่อทำการแก้ไขปัญหาบนใบหน้าให้สวยสมส่วน ถึงแม่คลินิกเสริมความงามในท้องตลาด จะเปิดมากขึ้น ตามความต้องการของผู้ใช้บริการมากเพียงใด ก็ไม่ได้มีการการันตีว่าทุกคลินิกที่เปิดจะเป็นคลินิกที่ดี ได้รับมาตรฐานสะอาด หรือทำการผ่าตัดศัลยกรรมแล้วจะปลอดภัย ดังนั้นควรเลือกสถานที่เข้ารับบริการให้ดี โดยการหาข้อมูลเปรียบเทียบหลายๆ ที่เพื่อให้การทำศัลยกรรมส่งผลที่ดีที่สุด และได้ผลลัพธ์ที่ดีเป็นที่น่าพึงพอใจที่สุด